Mercedes-Benz ประกาศเปิดตัว The-New EQS SUV ยนตรกรรมหรู SUV ขุมพลังไฟฟ้า 100% ซึ่งเป็นรุ่นที่สามที่พัฒนาบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ที่ได้รับการยกระดับทั้งความกว้างขวางด้วยพื้นที่โดยสารสูงสุด 7 ที่นั่ง สมรรถนะการขับขี่ที่ครอบคลุมทั้งทางเรียบ และออฟโรด และยังมาพร้อมเทคโนโลยีออฟโรดอัจฉริยะอันเป็นจุดเด่นสำคัญที่คนรักรถสายลุยไม่ควรพลาด
The-New EQS SUV จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ EQS 450+, EQS 450 4MATIC และ EQS 580 4MATIC
โดย The-New EQS SUV ได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์ม EVA2 เช่นเดียวกับ EQS และ EQE ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า ซึ่งจะมีการขยายแพลตฟอร์มและตัวถังสำหรับพัฒนาเป็นตัวถัง SUV ที่ใหญ่โต และยกสูง
เริ่มจากระยะฐานล้อ 3,210 มม. จะเท่ากับรุ่น EQS Saloon แต่ตัวถังจะสูงกว่า 200 มม. พร้อมด้วยความยาว x กว้าง x สูง ที่ 5,125 x 1,959 x 1,718 มม.
สำหรับภายในนั้น ได้มอบความหรูหราที่ส่งตรงจาก EQS แบบจัดเต็ม อาทิ เรือนไมล์พร้อมจอดิจิทัล MBUX Hyperscreen ที่ครอบคลุมแผงคอนโซลหน้า ด้วยจอแสดงผลแบบ OLED ส่วนระบบ MBUX จะปรับให้เข้ากับผู้ใช้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งให้คำแนะนำต่าง ๆ, ควบคุมระบบความบันเทิง, ควบคุมฟังก์ชั่นของรถมากมาย เป็นต้น ซึ่งเรียกว่า “zero layer”รวมถึงกล้องและเซ็นเซอร์ตรวจจับผู้ขับขี่อัจฉริยะ หากกล้องตรวจพบว่าคนขับกำลังดูหน้าจอผู้โดยสาร ระบบจะหรี่แสงแบบไดนามิกโดยอัตโนมัติ
ระบบเสียง Dolby Atmos® ที่สามารถให้เสียงที่คมชัด เพื่อสร้างประสบการ์ความบันเทิงแบบ 360 องศา
พร้อมระบบช่วยลากรถพ่วง (Trailer Maneuvering Assist), ระบบค้นหาสถานีชาร์จ (Electric Intelligence), MBUX (Mercedes-Benz User Experience) และระบบนำทาง AR (Augmented Reality Navigation) ที่รองรับการอัปเดทซอร์ฟแวร์แบบ Over-the-Air (OTA)
ระบบปรับอากาศมาพร้อมเทคโนโลยีฟอกอากาศ ENERGIZING AIR CONTROL Plus เสริมด้วยไส้กรอง HEPA คุณภาพสูง
เบาะแถวสองจะได้รับแบบปรับไฟฟ้าเป็นออพชั่นมาตรฐาน รวมถึงเบาะแถวสามที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครอบคลุมทุกที่นั่ง
พร้อมพื้นที่ห้องสัมภาระท้ายที่กว้างขวางพอสามารถวางถุงกอล์ฟสูงสุดถึงสี่ใบ โดยความจุจะต่างกันตามจำนวนที่นั่ง และรูปแบบการพับเบาะขยายพื้นที่ เริ่มจากรุ่น 5 ที่นั่ง จะได้รับความจุมาตรฐาน และความจุหลังพับเบาะทั้งหมดที่ 645 ถึง 2,100 ลิตร และรุ่น 7 ที่นั่ง ความจุ 565 ถึง 2,020 ลิตร
สำหรับขุมพลังของ The-New EQS SUV จะขึ้นกับรุ่นย่อย ดังนี้
EQS 450+
มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ PSM ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 265 กิโลวัตต์ (355 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 568 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้า 396 โวลต์ ให้ระยะทางเดินทางได้ไกลราว ๆ 536 – 660 กิโลเมตร/ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง และอัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า 23.0 – 18.6 กิโลวัตต์/100 กม. (มาตรฐาน WLTP)
EQS 450 4MATIC
มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ PSM ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังสูงสุด 265 กิโลวัตต์ (536 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้า 396 โวลต์ ให้ระยะทางเดินทางได้ไกลราว ๆ 507 – 613 กิโลเมตร/ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง และอัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า 24.0 – 20.0 กิโลวัตต์/100 กม. (มาตรฐาน WLTP)
EQS 580 4MATIC
มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ PSM ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังสูงสุด 400 กิโลวัตต์ (536 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 858 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้า 396 โวลต์ ให้ระยะทางเดินทางได้ไกลราว ๆ 507 – 613 กิโลเมตร/ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง และอัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า 24.0 – 20.0 กิโลวัตต์/100 กม. (มาตรฐาน WLTP)
สำหรับประสิทธิภาพการชาร์จ ตัวรถมาพร้อมออนบอร์ดชาร์จเจอร์มาตรฐาน 11 กิโลวัตต์/ออพชั่นเสริมสูงสุด 22 กิโลวัตต์ (สเปค USA จะเป็น 9.6 กิโลวัตต์ทั้งหมด) รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับสูงถึง 5 – 10 ชั่วโมง (สเปคอเมริกาใช้เวลา 11.5 ชั่วโมง)
รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงสูงสุด 200 กิโลวัตต์ โดยสามารถชาร์จจาก 10 ถึง 80% ในเวลา 31 นาที หรือชาร์จเพียง 15 นาที สามารถวิ่งได้ไกลถึง 250 กิโลเมตร เพื่อชดเชยระยะทางวิ่งที่สั้นกว่า EQS ที่ทำได้ถึง 770 กิโลเมตร/ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
ที่สำคัญ ทุกรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยี electric drive train (eATS) โดยในรุ่นมาตรฐานจะมีเฉพาะพลาล้อหลัง ส่วนรุ่น 4MATIC จะเสริมที่เพลาล้อหน้าด้วย เพื่อรองรับการทำงานฟังก์ชั่น Torque Shift ที่จะช่วยกระจายแรงบิดของมอเตอร์ให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่บนท้องถนนรูปแบบต่าง ๆ
รวมถึงมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ PSM จะให้ความหนาแน่นของพลังงานสูง ประสิทธิภาพสูง และความเสถียรของพลังงานสูง
สำหรับระบบกันสะเทือนนั้น ที่ล้อหน้าจะได้รับระบบกันสะเทือนแบบ 4 Link และล้อหลังแบบมัลติลิงค์ ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ ADS+ ที่ปรับได้อย่างต่อเนื่องเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
โหมดขับขี่ DYNAMIC SELECT มีให้เลือกด้วยกัน 4 โหมดมาตรฐาน ได้แก่ ECO, COMFORT, SPORT และ INDIVIDUAL ส่วนรุ่น 4MATIC จะเพิ่มโหมด OFFROAD ด้วย
พวงมาลัยล้อหลังมีมุมบังคับเลี้ยวสูงถึง 4.5 องศา เป็นออพชั่นมาตรฐาน ส่วนออพชั่นเสริมจะรองรับการอัปเดทซอร์ฟแวร์ OTA และปรับองศาการเลี้ยวมากถึง 10 องศา
The-New EQS SUV ได้รับการยกระดับเทคโนโลยี และออพชั่นความปลอดภัยจาก EQS อย่างครบครัน แต่รถรุ่นนี้ได้รับการยกระดับความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ทั้งการเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง, ระบบเตือนคาดเข็มขัดของผู้โดยสารตอนหลังทุกที่นั่ง, ระบบเตือนผู้โดยสารภายในรถ เพื่อป้องกันเด็กติดอยู่ในรถ
ด้วยการเปิดตัว The-New EQS SUV นี้ เป็นการตอกย้ำถึงยุทธศาสตร์การลดปริมาณ CO2 และกำลังก้าวเข้าใกล้การบรรลุความทะเยอทะยาน 2039 นำเสนอโซลูชั่นที่แท้จริงสำหรับการสัญจรที่ปราศจากมลพิษ การอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างชาญฉลาด และเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างมีความรับผิดชอบ
สำหรับราคา The-New EQS SUV จะเปิดตัวเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป
เครดิตข้อมูลจาก media.mercedes-benz.com
