อัลตราลักชัวรี่ สุดไปอีกขั้นของการท่องเที่ยวแบบหรูหราผสานแอดเวนเจอร์

เชียงรายอาจเป็นจังหวัดที่หลายคนเคยไปมาแล้ว แต่ไม่ใช่กับทุกคนที่จะได้สัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟไปกับคาราวานรถ BMW X7 xDrive40d M Sport, BMW 730Ld M Sport และ BMW 745Le xDrive M Sport พร้อมให้การต้อนรับและดูแลในแบบ Luxury Experience เพราะทริป BMW Luxury Experience นี้เกิดจาก BMW Thailand ได้ชวนสมาชิก BMW Excellence Club มาเที่ยวที่จังหวัดเชียงราย เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน กับช่วงเวลาสุดประทับใจไม่ว่าจะเป็นสถานที่ กิจกรรมอาหาร การได้ทดสอบสมรรถนะของรถ พร้อมการดูแลที่ทาง BMW Thailand รังสรรค์ขึ้น ล้วนแต่เป็นเรื่องสุดพิเศษ สะท้อนความพิถีพิถันและความใส่ใจในทุกรายละเอียด การันตีคุณภาพและความเหนือระดับของแบรนด์หรูระดับโลกอย่างแท้จริง

DAY1 : เปิดประสบการณ์สุดพิเศษ

เดินทางกันมาไกลแบบนี้ BMW Luxury Experience จัดเซอร์ไพรส์เปลี่ยนบรรยากาศจากนอนในห้องโรงแรม 5 ดาวเบบเดิม มาพักผ่อนในสไตล์ Glamping นอนเต๊นท์หรูระดับเวิลด์คลาสที่ Four Seasons Tented Camp Golden Triangle ที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศหรือฮีทเตอร์ ห้องอาบน้ำทั้งแบบอินดอร์ และแบบเอาต์ดอร์ที่มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่สามารถมองวิวไปได้กว้างไกลถึงฝั่งเมียนมาและลาว ให้ได้ใช้เวลาผ่อนคลายไปแบบชิลๆ

Mr. Anne Jakob Dijk หรือ Mr.Jacky
“ผมว่าในที่สุดแล้วมันก็คือเรื่องของ “คน” นั่นล่ะครับ ทีมงานเป็นทีมที่ดี จึงสามารถจัดการทุกอย่างได้ดี ซึ่งทริปจะออกมาไม่ดีเลยถ้าคุณขาดทีมงานที่ดี อีกอย่างหนึ่งทริปหนึ่งๆ ประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่างนะครับ  และสำหรับผมทริปนี้ไม่ได้มีแค่หนึ่งไฮไลต์ เเต่ทุกอย่างเป็นไฮไลต์หมด ผมขอขอบคุณทีมงานทุกคนที่ช่วยกันจัดทริปที่เพอร์เฟกต์นี้ให้ครับ”

DAY2 : ท่องเที่ยวในแบบ VVIP

BMW Luxury Experience พาสมาชิกไปเยือนจุดหมายยอดฮิตที่ ‘ดอยตุง’ แต่พิเศษกว่าด้วย Exclusive Lunch จากดอยตุงที่เสิร์ฟเมนูออร์แกนิกจากครัวตำหนัก พร้อมเมนูพิเศษที่หาชิมได้เฉพาะที่นี่เท่านั้นอย่าง “หมูย่างซาเบี๊ยะ” ที่ดัดแปลงมาจากซาเบี๊ยะอาหารประจำถิ่นของชาวอาข่า มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์จากจากเครื่องเทศ หรือจะเป็น “ข้าวเหลืองเนื้อไก่เมือง” เมนูยอดนิยมของกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า และทีเด็ดตบท้ายด้วย “ไอศกรีมวานิลลา ข้าวปุ๊กน้ำอ้อย” ก่อนจะพาทุกคนไปสักการะพระธาตุดอยช้างมูล ซึ่งตั้งอยู่ ณ จุดชมวิวที่สูงที่สุดของดอยตุง และแวะถ่ายภาพกันที่สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง ซึ่งตั้งอยู่ที่ดอยสูงสุดของเทือกเขานางนอนที่ระดับความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนไฮไลท์ที่มั่นใจว่าไม่เคยมีใครเคยได้ฟินแบบนี้แน่ๆ คือการได้ขับรถระดับลักชัวรี่กันเป็นคาราวาน ไต่ขึ้นลงเขากันแบบเพลินๆ พร้อมกิจกรรมทดสอบสุดพิเศษเพื่อให้สมาชิกได้สัมผัสสมรรถนะรถยนต์โดยเฉพาะ ทำให้การขับรถทางชันขึ้นดอยตุงกลายเป็นเรื่องชิลๆ เพราะ BMW X7 xDrive40d M Sport, BMW 730Ld M Sport และ BMW 745Le xDrive M Sport มีกำลังแรงม้าเหลือเฟือ จุดเด่นของ BMW คือมีโหมดการขับขี่หลายรูปแบบ จะปรับให้คนนั่งข้างหลังนั่งสบายมากๆ ก็ได้ หรือจะเน้นให้คนขับสนุกจนลืมว่ากำลังขับรถคันใหญ่อยู่ก็ทำได้เช่นกัน ถือว่าเป็นรถที่ทำให้ทั้งคนขับและคนนั่งเพลิดเพลินไปด้วยกันได้ตลอดทริป

คุณวิษณุ โรจนประภา และคุณเสาวลักษณ์ ศรีคำ คู่พ่อลูกแสนน่ารัก
“ส่วนตัวชอบขับรถอยู่แล้ว พอได้ขับรถขึ้นเขาและเห็นวิวสวยงามตลอดเส้นทางนั่นจึงเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ พิเศษ และน่าประทับใจครับ”
“อาหารที่ดอยตุงอร่อยมาก อีกเรื่องที่ประทับใจคือโรงแรม Four Seasons Tented Camp Golden Triangle, Thailand ที่เข้าพัก โดยเฉพาะตอนนั่งเรือเข้าไป สนุกมาก ชอบสะพานแขวนและห้องอาบน้ำในเต้นท์ด้วยค่ะ”

DAY3 : สนุกจนไม่อยากกลับ

ทริปนี้ยังเปิดโอกาสให้รถได้โชว์ศักยภาพเต็มที่ เช่น BMW 745Le xDrive M Sport ที่มีระบบ Autonomous Driving เป็นระบบที่รถขับเองได้ ผู้ขับขี่สามารถปล่อยมือจากพวงมาลัยได้ประมาณ 30 วินาที ส่วน BMW 730Ld M Sport มี Executive Drive Pro ระบบควบคุมช่วงล่างที่พเิศษขึ้นไปกว่าในรุ่นอื่นๆ อีก โดยเมื่อเซ็ตแผนที่ที่สอดคล้องกับช่วงล่าง ระบบสามารถคำนวณได้เลยว่าเมื่อขับรถไปแล้วเจอทางโค้งและลาดชันแต่ละระดับ ควรเซ็ตช่วงล่าว และจะใช้เกียร์ไหนให้เหมาะกับโหมดขับขี่ที่ใช้ในขณะนั้น ส่วนฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมาใน 730Ld คือกล้องที่สามารถส่องไปข้างหน้าเพื่อดูสภาพพื้นถนน ถ้าพื้นถนนเป็นหลุมเป็นบ่อเยอะ รถจะปรับช่วงล่างให้สอดคล้องกับพื้นถนนนั้นๆ ด้วย

พร้อมกิจกรรมเทสต์ไดรฟ์สุดเซอร์ไพรส์ โดยผู้เชี่ยวชาญโชว์การกลับรถแบบ 180 องศา หรือ J-Turn ด้วยรถรุ่น 7 Series ที่มีเทคโนโลยี Carbon core แกนตัวถังที่ใช้วัสดุส่วนใหญ่จากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งเท่ากับเหล็กทั้งปลอดภัยและน้ำหนักเบา ซึ่งยิ่งรถเบายิ่งคล่องตัว

ส่วนรถยนต์อเนกประสงค์สุดหรู BMW X7 xDrive40d M Sport ก็โชว์ทำ J-Turn ได้แบบชิลๆ เพราะเทคโนโลยีและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเหนือระดับ ทำให้สมาชิกที่ได้ขับต่างบอกว่ารู้สึกเหมือนไม่ได้ขับรถใหญ่ โดย X7 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้มีระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ที่นำเอาระบบกันโคลงแบบแอคทีฟมาใช้เพื่อช่วยลดการโคลงตัวของรถให้อยู่ในระดับต่ำสุดอย่างต่อเนื่องในขณะขับขี่ พิสูจน์กันได้จากกิจกรรมตะลุยออฟโรดด้วย BMW X7 xDrive40d M Sport ที่พาทุกคนผ่านหลุม บ่อ และทางลาดชันได้แบบสบายๆ นอกจากนี้ X7 ที่นำมาออกทริปในครั้งนี้ ยังได้มีการอัปเกรดตัวเครื่องยนต์ขึ้นมาเป็นเครื่องยนต์ที่รักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี AdBlue ซึ่งเป็นการเติมสารสีฟ้าเพื่อช่วยลดคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งลูกค้าไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เพราะรวมอยู่ใน BSI (BMW Service Inclusive) เรียบร้อย และทุกๆ ระยะของการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องจะมีการเติมสารสีฟ้านี้ลงไปเพื่อช่วยลดมลพิษที่ปล่อยออกไปในอากาศจากแรงม้าที่เพิ่มขึ้นด้วยทำให้ทุกคนสนุกจนไม่อยากปล่อยพวงมาลัย

Ms. Wen Xin ในฐานะแฟนพันธุ์แท้ที่ใช้งาน BMW มายาวนานหลายสิบปี
กิจกรรมที่ทำให้ผู้ร่วมทริปสาวชาวจีนตื่นเต้นและประทับใจที่สุดคือการเทสต์ไดรฟ์ทุกรอบ โดยเฉพาะ Surprised Test Drive ส่งท้ายทริป ซึ่งเธอร่วมกิจกรรมอย่างสนุกสนานทุกครั้ง และสนุกกับการทำ J-Turn เป็นพิเศษ!

END TRIP: กับความสุขเหนือระดับ

การเดินทางครั้งนี้เปิดโอกาสให้สมาชิกหลายคนได้รู้จักกับ BMW ในแง่มุมที่ไม่เคยสัมผัส แม้บางคนจะใช้รถรุ่นเดียวกันนี้อยู่แต่ก็เหมือนเปิดโลกใหม่ เพราะได้รู้จักฟังก์ชันในรถเพิ่มอีกหลายฟังก์ชั่น จากเจ้าหน้าที่ที่คอยให้คำแนะนำตลอดการเดินทาง

การมาร่วมกิจกรรมกับ BMW ครั้งนี้ นับเป็นการเปิดประสบการณ์หรูหราเหนือระดับที่ผสมผสานการผจญภัย สร้างรอยยิ้มและมอบความสุขให้แก่ลูกค้าได้ตลอดทริปอย่างแท้จริง และเป็นส่วนหนึ่งของบริการและสิทธิประโยชน์เหนือระดับจากโปรแกรม BMW Excellence Club เอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับลูกค้ากลุ่ม Luxury Class ของ BMW Thailand ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มได้ที่ —> https://www.bmw.co.th/th/discover/bmw-excellence-club.html