ford Ford Ranger Ford Ranger Raptor ฟอร์ด ฟอร์ด เรนเจอร์ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

Ford Ranger Raptor โฉมใหม่ แรงขึ้นด้วยเครื่อง V6 พร้อมช่วงล่างออฟโรดที่แท้จริง

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เผยโฉม All-New Ford Ranger Raptort รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงรุ่นที่สอง ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อพร้อมตะลุยทะเลทราย พิชิตภูเขาสูงชัน และทุกสภาพเส้นทางหฤโหดยิ่งกว่าเดิม พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงเพื่อผู้หลงใหลการขับขี่ออฟโรดตัวจริง ฟอร์ด เรนเจอร์…

Home / AUTO / Ford Ranger Raptor โฉมใหม่ แรงขึ้นด้วยเครื่อง V6 พร้อมช่วงล่างออฟโรดที่แท้จริง

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เผยโฉม All-New Ford Ranger Raptort รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงรุ่นที่สอง ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อพร้อมตะลุยทะเลทราย พิชิตภูเขาสูงชัน และทุกสภาพเส้นทางหฤโหดยิ่งกว่าเดิม พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงเพื่อผู้หลงใหลการขับขี่ออฟโรดตัวจริง

All-New Ford Ranger Raptor

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ ได้รับการพัฒนาโดยทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ให้เป็นที่สุดแห่งรถกระบะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลเรนเจอร์ ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทันสมัยมากขึ้น ควบคุมการทำงานของตัวถังที่แข็งแกร่งและเหนือชั้นยิ่งขึ้น จึงเป็นรถกระบะตระกูลเรนเจอร์ที่อัดแน่นด้วยสมรรถนะขั้นสูงสุดเท่าที่ฟอร์ดเคยพัฒนา

“เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถกระบะสมรรถนะสูงตัวจริงด้วยฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่” มร. เดฟ เบิร์น หัวหน้าวิศวกร ทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ โครงการพัฒนาฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ กล่าว “รถกระบะคันนี้จะมาพร้อมความเร็วที่เพิ่มขึ้น รูปโฉมที่สะดุดตา และอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่มากมาย จึงเรียกได้ว่าเป็นรถกระบะเกิดมาแกร่งที่สมบุกสมบันที่สุดเท่าที่ฟอร์ดเคยพัฒนา”

อีกขั้นของขุมพลังเบนซิน V6 เร้าใจตั้งแต่เสียงถึงการควบคุม

Next Gen Ford Ranger Raptor

ไฮไลท์สำคัญของรถรุ่นนี้ คือการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เทอร์โบคู่ มาพร้อมเสื้อสูบกราไฟต์ที่มีขนาดกะทัดรัด ที่มีความแข็งแรงมากกว่าเสื้อสูบเหล็กหล่อทั่วไปถึง 75% ทนทานกว่าถึง 75% ควบคู่กับการออกแบบการทำงานของเครื่องยนต์ที่ตอบสนองกับการเร่งความเร็วได้อย่างฉับไว

All-New Ford Ranger Raptor

จึงสามารถมอบกำลังสูงสุดถึง 397 แรงม้า (PS) ที่ 5,650 รอบ/นาที แรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที

พร้อมระบบป้องกันการรอรอบ (Anti-Lag System – ALS) จะรักษาการหมุนของเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ความเร็วสูงต่อไปอีกถึง 3 วินาที หลังจากผู้ขับขี่ปล่อยคันเร่ง รถจึงคืนความเร็วได้ทันใจขณะเร่งออกจากทางโค้ง หรือระหว่างการเปลี่ยนเกียร์

ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตรจะยังคงมีให้เลือกอยู่ แต่จะวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

เครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่จะทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ซึ่งเกียร์แต่ละสปีดได้รับการตั้งค่าเฉพาะตัวแตกต่างกัน ทำให้ Ford Ranger Raptor โฉมใหม่นี้ พร้อมเอาชนะทุกเส้นทางหฤโหด ไม่ว่าจะเป็นกรวด ดินลูกรัง โคลน หรือทราย

และด้วยระบบท่อไอเสียควบคุมไฟฟ้าพร้อมโหมดปรับเสียงให้เลือกได้ถึง 4 โหมด ผ่านปุ่มบนพวงมาลัย ผู้ขับขี่จึงปรับระดับความดังเสียงท่อไอเสียของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ ให้มีความนุ่มนวลไปจนถึงเสียงกระหึ่มเร้าอารมณ์ได้ตามต้องการ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

โหมดเงียบ ออกแบบมาเพื่อตั้งค่าให้ท่อไอเสียเงียบมากกว่าการอวดสมรรถนะ เหมาะสำหรับการสตาร์ทรถตอนเช้าตรู่ เพื่อลดเสียงรบกวนเพื่อนบ้านหรือผู้คนในชุมชน

โหมดปกติ สำหรับใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่ไม่ดังเกินไปสำหรับการขับบนท้องถนน โดยจะเป็นค่าเริ่มต้นกับการขับขี่โหมดปกติ โหมดถนนลื่น โหมดโคลน และโหมดหิน

โหมดสปอร์ต มอบเสียงดังกระหึ่มขึ้น เมื่อต้องการเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจยิ่งขึ้น

โหมดบาฮา โหมดเสียงที่อวดความแรงสูงสุดทั้งความดังและความทุ้ม เสมือนระบบต่อตรงออกแบบมาสำหรับการขับขี่ออฟโรดเท่านั้น

ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตรจะยังคงมีให้เลือกอยู่ แต่จะวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

ยกระดับความแกร่งเพื่อผจญภัยทุกสภาพแวดล้อมสุดหฤโหด

All-New Ford Ranger Raptor

All-New Ford Ranger Raptor ใช้แชสซีอันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจาก ฟอร์ด เรนเจอร์ เจนเนอเรชันใหม่ โดยเพิ่มการประกอบและอุปกรณ์เสริมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณเสา Cกระบะท้าย ล้ออะไหล่ ไปจนถึงโครงรถแบบพิเศษที่พร้อมรองรับแรงกระแทกจากกันชน ขายึดโช้ค และฐานยึดโช้คหลัง ทั้งหมดนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ พร้อมตะลุยเส้นทางออฟโรดสุดแสนหฤโหด

ช่วงล่างของรุ่นนี้ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อยกระดับความแข็งแกร่งทุกด้าน ด้วยปีกนกบนและล่างใหม่ที่ทำจากวัสดุอะลูมิเนียมที่แข็งแรง แต่มีน้ำหนักเบา รวมถึงระบบกันสั่นสะเทือนที่มีระยะยืดยุบสูง พร้อมวัตต์ลิงก์ด้านหลังที่พัฒนามาเพื่อให้เจ้าของรถขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนถนนขรุขระได้อย่างมั่นใจ

องค์ประกอบสำคัญของรถที่ทำหน้าที่รองรับแรงกระแทกจากลูกกระโดดและหลุมบ่อ คือระบบกันสะเทือน FOX แบบ Live Valve Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ที่ควบคุมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยช่วยลดการสะเทือนตามการเคลื่อนไหวของรถ นับว่าได้ว่าระบบกันสะเทือนนี้ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยใช้ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นผสม Teflon™ ที่ลดการเสียดสีลงได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รุ่นก่อนหน้านี้

Next Gen Ford Ranger Raptor

ขณะที่ส่วนฮาร์ดแวร์ผลิตโดย FOX แต่ทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ คือผู้รับหน้าที่ปรับจูนและพัฒนาโช้คอัพรุ่นนี้โดยผสมผสานการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในงานด้านวิศวกรรม (Computer-Aided Engineering หรือ CAE) และการทดสอบรถในสถานการณ์จริง ตั้งแต่การปรับการทำงานของสปริงไปจนถึงการกำหนดความสูง การปรับแต่งวาล์ว และการออกแบบระดับการยืด-หดของโช้ค เพื่อสร้างความสมดุลที่สมบูรณ์แบบที่สุด มอบทั้งความสะดวกสบาย การควบคุมรถ ความมั่นคง และการยึดเกาะถนนทั้งบนทางเรียบและเส้นทางออฟโรด

ระบบช่วงล่างแบบไลฟ์ วาล์ว Internal Bypass ยังได้รับการปรับแต่งให้มอบความสบายบนทางเรียบ และประสิทธิภาพการขับขี่ออฟโรดทั้งแบบความเร็วสูงและความเร็วต่ำได้ โดยทำงานร่วมกับโหมดการขับขี่ใหม่ ที่ผู้ขับขี่เลือกได้เอง

นอกจากการทำงานร่วมกับโหมดการขับขี่ต่าง ๆ แล้ว ระบบดังกล่าวยังเตรียมความพร้อมให้ตัวรถในการตะลุยพื้นที่ได้หลากหลาย โดยเมื่อโช้คได้รับแรงกด ระบบบายพาสจะทำงานเพื่อตอบสนองและช่วยซับแรงได้อย่างพอเหมาะ และผลักแรงกลับไปเมื่อโช้คมีการคืนตัวเต็มที่

ระบบป้องกันการหดตัวค้าง (Bottom-Out Control) ของ FOX ที่ได้รับการพิสูจน์จากสนามแข่งช่วยสร้างแรงหน่วงสูงสุดในระยะ 25$ สุดท้ายของการหดตัว เพื่อป้องกันไม่ให้โช้คค้าง ในทำนองเดียวกัน ระบบดังกล่าวยังช่วยชะลอการหดตัวของโช้คหลัง เพื่อไม่ให้รถกระแทกแรงเกินไปขณะเร่งความเร็ว เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่มากขึ้น

เมื่อระบบกันสะเทือนสร้างแรงหน่วงในปริมาณที่พอเหมาะในทุกการเคลื่อนไหวของรถ All-New Ford Ranger Raptor จึงยึดเกาะพื้นผิวได้ดีทั้งบนถนน และเส้นทางสมบุกสมบัน

สมรรถนะในการฟันฝ่าเส้นทางที่ท้าทายของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ ยังมาจากการติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถที่มีขนาดใหญ่เกือบ 2 เท่าของขนาดปกติที่ใช้กับฟอร์ด เรนเจอร์ อีกทั้งยังทำขึ้นจากเหล็กเหล็กที่มีความแข็งแรงหนา 2.3 มิลลิเมตร เมื่อประกอบเข้ากับแผ่นปิดใต้เครื่องยนต์และชุดเกียร์จึงช่วยปกป้องชิ้นส่วนสำคัญ อาทิ หม้อน้ำ ระบบบังคับเลี้ยว คานด้านหน้า อ่างน้ำมันเครื่อง และชุดเฟืองได้ดีเยี่ยม

ตะขอลากจูงคู่หน้าและหลังทำให้รถพร้อมลุยในเส้นทางออฟโรดทุกสถานการณ์ ให้ผู้ขับขี่เลือกใช้ตะขอใดตะขอหนึ่งเป็นจุดยึดสายลากจูงได้ ในกรณีที่ตะขออีกด้านเข้าถึงได้ยาก ขณะเดียวกันก็เพิ่มความสมดุลด้วยการใช้สายลากจูงสองเส้นเพื่อดึงรถขึ้นจากหลุมทรายลึกหรือหล่มโคลนได้

ควบคุมดีเยี่ยมบนทุกสภาพถนน

All-New Ford Ranger Raptor

นับเป็นครั้งแรกที่ Ford Ranger Raptor มาพร้อมระบบการขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบตลอดเวลา โดยใช้ระบบเกียร์ไฟฟ้าใหม่ที่ปรับได้ 2 ระดับ และยังมาพร้อมระบบควบคุมเฟืองท้ายคู่หน้าและหลังแบบ locking differentials ที่ตอบโจทย์คอออฟโรดตัวจริง

ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตรจะยังคงมีให้เลือกอยู่ แต่จะวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

ประกอบกับการยกระดับ “โหมดบาฮา” ที่จะปรับระบบการขับขี่ของรถทั้งหมดด้วยระบบไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ตั้งแต่เครื่องยนต์ เกียร์ ความไวในการใช้ระบบเบรกอัตโนมัติ (ABS) การประมวลผล การยึดเกาะถนน ความมั่นคง ระบบท่อไอเสีย พวงมาลัย การตอบสนองต่อการเร่งเครื่อง ไปจนถึงการแสดงผลบนแผงหน้าปัดรถยนต์ และจอทัชสกรีน

นอกจากนั้น สีของแผงหน้าปัดยังปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการขับขี่แต่ละโหมดอีกด้วย

All-New Ford Ranger Raptor

โหมดการขับขี่ทางเรียบ

โหมดปกติ ออกแบบมาเพื่อความสบาย ประหยัดเชื้อเพลิง และขับขี่สะดวก

โหมดสปอร์ต ออกแบบมาให้ตอบสนองไวขึ้นสำหรับการขับขี่บนถนนอย่างสนุกสนาน

โหมดทางลื่น ออกแบบมาให้ผู้ขับมีความมั่นใจในการขับขี่บนถนนลื่นหรือพื้นถนนที่ไม่สม่ำเสมอ

โหมดการขับขี่ออฟโรด

โหมดหิน มอบการยึดเกาะและการทรงตัวที่เหนือชั้นบนพื้นผิวที่ลื่นไถลได้ง่าย

โหมดทราย สำหรับใช้ขับบนพื้นทรายหรือหิมะ เพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังและการเปลี่ยนเกียร์

โหมดโคลน เพิ่มศักยภาพในการยึดเกาะขณะออกตัว และรักษาการทรงตัวของรถ

โหมดบาฮา เปลี่ยนเข้าสู่การขับขี่ด้วยความเร็วสูงเต็มสมรรถนะ โดยปรับทุกระบบให้พร้อมสำหรับการลุย

ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตรจะยังคงมีให้เลือกอยู่ แต่จะวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ ยังมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วสำหรับการขับขี่ออฟโรด (Trail Control™) ทำหน้าที่เสมือนระบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติสำหรับการขับขี่ออฟโรด ผู้ขับขี่สามารถเลือกความเร็ว (ไม่เกิน 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง) รถจะควบคุมการเร่งความเร็วและการเบรก ผู้ขับขี่เพียงจดจ่อกับการบังคับควบคุมพวงมาลัยเพื่อฝ่าเส้นทางสุดท้าทายได้ง่ายขึ้น

การออกแบบที่ทรงพลังทั้งภายนอก และภายใน

All-New Ford Ranger Raptor

All-New Ford Ranger Raptor ได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ภายนอกดุดัน สมกับสมรรถนะที่ได้รับการยกระดับไปอีกขั้น ทั้งซุ้มล้อที่ใหญ่ขึ้นเพิ่มความกว้างของรถ ไฟหน้าใหม่รูปตัว C อันเป็นดีเอ็นเอของรถกระบะฟอร์ด ตัวอักษร F-O-R-D ขนาดใหญ่บนกระจังหน้า และกันชนที่เป็นอิสระจากกระจังหน้า

ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Day-time running lights) แบบแอลอีดีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่องสว่างขึ้นอีกระดับ โดดเด่นด้วยไฟเลี้ยวแบบไดนามิก ไฟสูงแบบตัดแสงและการปรับระดับแสงแบบอัตโนมัติเพื่อให้แสงสว่างที่ปลอดภัยต่อผู้ขับขี่ รวมถึงผู้สัญจรที่ขับสวนทาง

All-New Ford Ranger Raptor

ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมยาง All-Terrian BFGoodrich® KO2® ให้ความเท่และดุดันภายใต้ซุ้มล้อที่สะดุดตา ช่องลมข้างบังโคลนนอกจากความสวยงามและยังมีประโยชน์ด้านอากาศพลศาสตร์เช่นเดียวกับการออกแบบพื้นผิวทั้งหมด

All-New Ford Ranger Raptor

บันไดข้างดีไซน์ใหม่ทำจากอลูมิเนียมที่แข็งแรง ช่วยเสริมรูปลักษณ์และฟังก์ชันการใช้งานให้กับรถ ส่วนด้านหลังใช้ไฟท้ายแบบ LED กลมกลืนกับไฟหน้า กันชนหลังสีเทาเข้มมีบันไดเหยียบเพื่อขึ้นกระบะท้าย และชุดลากในตัวที่ติดตั้งในตำแหน่งสูงเพื่อเพิ่มมุมจาก โดยรายละเอียดของอุปกรณ์แตกต่างกันไปในแต่ละตลาด

All-New Ford Ranger Raptor

การออกแบบภายในยังคงสื่อถึงพลังและความดุดันของการเป็นออฟโรดสมรรถนะสูงเช่นเดียวกับการออกแบบตัวถังภายนอก ห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดโดยใช้เบาะที่นั่งแบบสปอร์ต ทั้งเบาะหน้าและหลัง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบ มอบทั้งความสบายและกระชับแม้รถวิ่งด้วยความเร็วบนทางโค้ง

All-New Ford Ranger Raptor

การตกแต่งรายละเอียดด้วยสีส้ม ‘โค้ด ออเรนจ์’ บนแผงหน้าปัด การตัดขอบชิ้นส่วนหลัก ๆ ในห้องโดยสาร รวมถึงบนเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นอีกเมื่อเปิดไฟส่องสว่างสีอำพันอบอุ่นภายในห้องโดยสาร

เสริมความหรูหราอีกขั้นด้วยพวงมาลัยหนังเกรดพรีเมียมจับกระชับมือพร้อมแถบบอกตำแหน่งองศาพวงมาลัยหรือ On- centre mark และแป้นแพดเดิลชิฟต์เคลือบแมกนีเซียม

All-New Ford Ranger Raptor

ห้องโดยสารของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ ทำงานด้วยระบบดิจิทัลทั้งหมด ด้วยแผงหน้าปัดความชัดเจนสูงขนาด 12.4 นิ้ว และหน้าจอแบบสัมผัสตรงกลางขนาด 12 นิ้ว แสดงผลการเชื่อมต่อและระบบความบันเทิงได้ง่าย ๆ ด้วยการสั่งด้วยเสียงจาก SYNC 4A® รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ระบบเสียง Bang & Olufsen®8 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์เสียงเหนือระดับระหว่างการผจญภัยครั้งใหม่

Next Gen Ford Ranger Raptor

“เรารู้ดีว่าลูกค้าคาดหวังที่จะเห็นฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ ที่มาพร้อมกับสมรรถนะที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น แต่ผมคิดว่าลูกค้าอาจจะไม่ได้คาดหวังไปถึงการพัฒนาแบบก้าวกระโดดแบบที่เราได้พัฒนาให้กับรถคันนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ จะเป็นรถกระบะที่ขับสนุกจริงๆ และผมเชื่อว่าสมรรถนะเหนือชั้นจะทำให้ลูกค้าตื่นเต้นเร้าใจแน่นอน” เดฟ กล่าวสรุป

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของ All-New Ford Ranger Raptor ราคา และโอกาสเข้าไทย เตรียมเปิดเผยเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้